คุก 50 ปี อดีตผู้ว่าฯ ททท. ทุจริตงานบางกอกฟิล์มฯ ลูกสาวโดน 40 ปี

คุก 50 ปี อดีตผู้ว่าฯ ททท. ทุจริตงานบางกอกฟิล์มฯ ลูกสาวโดน 40 ปี

วันนี้ (8 พ.ค.) ศาลอุทธรณ์คดีสินบนข้ามชาติพิพากษา จำคุกนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อายุ 72 ปี อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเวลา 50 ปี และบุตรสาว น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ อายุ 45 ปี เป็นเวลา 40 ปี หลังพบทุจริตจากกรณีรับเงินตอบแทนจากนายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน สามี-ภรรยานักธุรกิจภาพยนตร์ ชาวสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2002 – 2007 (หรือปี พ.ศ.2545 – 2550) มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

โดยคดีนี้สืบเนื่องมาจาก ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าการจัดจ้างโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ (บางกอกฟิล์มเฟสติวัล) 

มีการกำหนดเงื่อนไขโดยวิธีตกลงราคา ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะงานบางกอกฟิล์มเฟสติวัลปี 2546 นั้นไม่ได้จัดจ้างบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือ มีประสบการณ์ เป็นที่รู้จัก และนางจุฑามาศมีการเรียกรับสินบนเป็นเงิน 1,822,294 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 62.7 ล้านบาท) โดยให้นายเจอรัลด์โอนเข้าบัญชีของบุตรสาวคือ น.ส.จิตติโสภาและเพื่อน

โดยคำตัดสินศาลอุทธรณ์แผนกคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบนี้ มีขึ้นหลังการตรวจสำนวนประชุมปรึกษาและพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ พร้อมพิจารณาคำแปลคำให้การของเจ้าหน้าที่ FBI สหรัฐอเมริกา ที่ทำการสืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีกับสามี-ภรรยาตระกูลกรีนแล้ว

นางจุฑามาศ มีความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 มาตรา 12 และ ฐานเรียกรับทรัพย์สินฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 ,12 รวมความผิด 11 กระทง กระทงละ 6 ปี รวม 66 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงตามกฎหมายแล้ว ให้จำคุกสูงสุดเป็นเวลา 50 ปี ขณะที่บุตรสาว น.ส.จิตติโสภา มีความผิด 10 กระทง กระทงละ 4 ปี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้นเป็นเวลา 40 ปี ส่วนเงินสินบนมูลค่า 62,724,776 บาทที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งริบนั้น ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกฟ้องเนื่องจากอัยการโจทก์ไม่ได้มีคำขอให้ริบของกลางหรือเงินใดๆ ไว้ท้ายฟ้อง จึงจะเป็นการพิพากษาเกินคำขอท้ายฟ้องของโจทก์

ด้านนายสุชาติ ชมกุล ทนายความจำเลยกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจำเลยจะยื่นฎีกาหรือไม่ เนื่องจากต้องรอคัดคำพิพากษาฉบับเต็มและกลับไปปรึกษากับคณะทำงานทนายความคดีนี้ซึ่งมีหลายคน เพื่อช่วยกันตรวจดูคำพิพากษาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ไอ้หื่นพยายามปล้นยายวัย 68 ซ้ำหลังพยายามข่มขืนเด็ก 14

หลังจากเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) นางสังเวียน อายุ 63 ปี ชาวอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แจ้งตำรวจว่ามีชายอายุประมาณ 30 ปีงัดประตูบ้านเข้ามาพยายามข่มขืนหลานสาววัย 14 ปี ก็มีเหตุแจ้งจาก นางลำยวน ม่วงไหมทอง อายุ 68 ปีในพื้นที่ชะอำอีกว่า นายนนท์ หรือคนร้ายที่พยายามข่มขืนเด็กสาววัย 14 ปีพยายามปล้นทรัพย์ตน

โดยในช่วงสายของวันเดียวกัน หลังจากหลบหนีออกมาจากบ้านของนางสังเวียน นายนนท์ก็มาแอบซ่อนตัวที่บริเวณป่าหลังวัดเทพประสิทธิ์ที่ นางลำยวนเป็นแม่ครัวประจำอยู่ โดยนางลำยวนอธิบายว่าตนกำลังตัดฟืนอยู่บริเวณสะพานหน้าวัด จากนั้นเห็นคนร้ายเดินออกมาจากบริเวณป่าด้านหลังวัด จึงระวังตัวและเดินออกห่าง จากนั้นคนร้ายได้เปลี่ยนเสื้อผ้า โดยนุ่งกางเกงขาก๊วยสีเขียว เอาผ้าคลุมหัวปิดบังใบหน้า ซึ่งทำให้ตนรู้สึกไม่ไว้วางใจ ไม่นานตนก็คว้ามีดอีโต้ที่นำมาตัดฟืนจะเดินกลับเข้าบ้าน แต่คนร้ายเข้ามาล็อกคอจากข้างหลัง โชคดีที่สุนัขจรจัดที่ตนเลี้ยงไว้นับ 10 ตัวเข้ามาเห่าไล่และกระโดดกัดคนร้าย ทำให้คนร้ายตกใจและปล่อยตน ซึ่งนางลำยวนก็หนีเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว

นางลำยวนกล่าวว่ารู้จักและเคยเห็นหน้าคนร้ายแต่ไม่สนิทสนมกัน เข้าใจว่าไม่ได้ตั้งใจเข้ามาทำร้ายแต่น่าจะมาเอาเงิน และหากเอ่ยปากขอดีๆ ก็จะให้ อีกทั้งขณะเกิดเหตุตนมีเงินติดตัวเพียง 20 บาทกับสร้อยพระเลี่ยมทองอีก 1 องค์ โชคดีที่สุนัขที่เลี้ยงไว้มาช่วยไว้ทัน

ผลิตภัณฑ์เช็ดหน้าแถลงอภัย เหตุโฆษณาน้ำประปาทำให้เกิดสิว ผลิตภัณฑ์เช็ดหน้าแถลงอภัย เหตุโฆษณาน้ำประปาทำให้เกิดสิว วันที่ 8 พ.ค. จากกรณีผลิตภัณฑ์โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดหน้ายี่ห้อหนึ่งทำการโฆษณาด้วยข้อความบนทวิตเตอร์ ถึงสรรพคุณช่วยขจัดสิวซึ่งพาดพิงถึงสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวคือน้ำประปา ส่งผลให้ทางการประปานครหลวงออกมาถามหาเอกสารอ้างอิง และอาจดำเนินการทางกฎหมายนั้น

ซึ่งทางร้านยอมรับว่าประมาทไปและคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางร้านเองก็จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณ์เช่นนี้อีกแน่นอน โดยคิดว่าในอนาคตจะไม่มีการให้เช่า หรือถ้ามีการให้เช่าก็จะมีการเข้มงวดอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ผู้ที่มาเช่าทางร้านจัดงานนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีฐานะดี เพราะมีราคาสูงหลายแสนบาท และนอกจากนี้ทางร้านบริการขายเครื่องดื่มให้เฉพาะผู้ใหญ่โดยจะต้องจ่ายเป็นเงินสด โดยซื้อ 1 ครั้งอาจต้องใช้เงิน 500 ถึง 1,000 บาท และมีความเป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่ที่ซื้อนั้นจะเดินถือไปนั่งใกล้ๆเด็กทำให้เข้าใจว่าเป็นของเด็กตามภาพปรากฏ หรืออาจจะเป็นของเด็กจริงๆก็ไม่ทราบ แต่ยืนยันเรื่องยาเสพติดไม่มีแน่นอนเพราะร้านเปิดโล่งมีคนเข้าออกตลอดเวลาและอีกประการคือขณะนี้ยังไม่ทราบว่ากลุ่มเด็กเยาวชนที่เข้ามานั้นเป็นกลุ่มไหน มากับนักร้อง หรือทีมงานผู้จัดหรือไม่ หรือมากันเองจากอีกฝั่งซึ่งติดชายหาดสามารถเดินเข้ามาได้